ชามะละกอ
ชามะละกอ
มะละกอมีไขมันอิ่มตัว คอเลสเตอรอล และเกลือโซเดียมต่ำ เป็นแหล่งที่ดีของเส้นใยอาหาร ธาตุโพแทสเซียม วิตามินเอ ซี และโฟเลต แต่ร้อยละ 92 ของพลังงานจากมะละกอสุกมาจากคาร์โบไฮเดรต ผู้ที่ควบคุมอาหารแป้งและน้ำตาลจึงไม่ควรกินมะละกอมากเกินไป สีแดงอมส้มที่พบในมะละกอสุกแสดงว่า มะละกอสุกมีสารไลโคพีนซึ่งเป็นสารช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมากอีกด้วย
ชามะละกอวิธีการเลือกดื่มชาให้ดีต่อสุขภาพ
1. ไม่ดื่มชาที่ร้อนเกินไป หรืออุณหภูมิมากกว่า 55 - 65 องศาเซลเซียส เนื่องจากมีการศึกษาพบว่า การดื่มชาที่ร้อนมากเกินไป เพิ่มอัตราการเกิดมะเร็งหลอดอาหาร
2. เลือกชาใส เลี่ยงการเติมน้ำตาล ครีมเทียม หรือนม เนื่องจากลดประสิทธิภาพของสารต้านอนุมูลอิสระในชาได้ สามารถปรุงแต่งกลิ่นวานิลลาหรืออบเชยเล็กน้อยเพื่อเลียนแบบความหวานได้ หรือหากชอบออกรสหวานแนะนำเป็นชาสมุนไพรรสผลไม้เนื่องจากชาบางชนิดมีรสหวานจากธรรมชาติโดยไม่ต้องเติมสารให้ความหวาน
3. เลือกซื้อชาแก้วขนาดเล็กสุด ในกรณีที่เลือกดื่มชาที่มีการเติมน้ำตาล น้ำเชื่อม หรือครีมเทียม เพื่อลดพลังงานหรือน้ำตาลที่ได้รับต่อวัน
4. ลดระดับความหวาน หากติดดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวาน แนะนำค่อย ๆ ปรับลดระดับความหวานลงทีละน้อย เช่น จากเดิมเลือกความหวาน 100% ปรับลดวามหวานลงเหลือ 50% หรือ 25%
“ชา” (Tea) คือผลผลิตที่ได้วัตถุดิบจะเลือกใช้เฉพาะใบอ่อน นำมาผ่านการแปรรูป โดยการผ่านการอบชาด้วยการทำให้แห้ง นำมาผสมกับสมุนไพรอื่นๆ
ส่วนผสม
1. ใบมะละกอ ที่เป็นยอด ไม่แก่เกินไป
2. ใบเตยหอม
วิธีทำ
1. นำใบมะละกอ ใบเตยหอม มาตัดแต่ง ล้างทำความสะอาด หั่นขนาดเล็กลง นำไปตากแดด 2-3 แดด หลังจากนั้นนำมาบดหยาบ หรือ อบอุณหภูมิเตาอบ 60-70 องศาเซลเซียส นาน 4-5 ชั่วโมง
2. นำใบมะละกอและใบเตยมาผสมกัน อัตราส่วน 3:7 (ใบมะละกอ 0.3 : ใบเตย 0.7 กรัม)
3. บรรจุซองชา ซีลปิด บรรจุในซองกระดาษคราฟ ถุงละ 10 ซอง